วัดป่าคลอง๑๑ http://watpaklong11.siam2web.com/

กิจกรรมการล้างพิษออกจากตับ (แบบระยะสั้น)
สถานที่ วัดป่าคลอง 11
ผู้ดำเนินรายการ หมออ้อย (ลูกหมอณา) ปัจจุบันเป็นแพทย์ทางเลือก
วัตถุประสงค์ เพื่อให้มีสุขภาพดีทั้งกาย และใจ
ระยะเวลาการปฏิบัติ รวม 4 วัน (เริ่มเวลา 1300 วัน ศ.- 1200 วัน จ.)
ที่พัก อาคารปฏิบัติธรรมวัดป่าคลอง 11
ค่าใช้จ่าย ประมาณ 1000 บาท (ค่ายา 700)
วันที่ 1 วันศุกร์ เริ่มเวลา 1300 น. กินยาน้ำยาผง ดื่มน้ำชามะละกอ ทำกัวซา นวดตัว อบรม ทำดีท็อกซ์
         ช่วงค่ำ ทำวัตรเย็น ทำดีท็อกซ์ กินยาน้ำยาผง พักผ่อน 3 ทุ่ม
วันที่ 2 วันเสาร์ ช่วงเช้า ทำดีท็อกซ์ กินยาน้ำยาผง กินกล้วยน้ำว้าสองลูก มะละกอสุก  น้ำข้าวกล้อง อาบแดดรับวิตามินดี 20 นาที กินยาน้ำยาผง
          ดูวีดีโอ อบตัว 30 นาที

          ช่วงบ่าย แนะนำการกัวซา หยอดหู หยอดตา หยอดจมูก  อบตัว 30 นาที ดูสื่อ กินยาน้ำยาผง ดื่มน้ำชามะละกอ พอกหน้า แช่มือ แช่เท้า
          ทำดีท็อกซ์ รับประทานน้ำซุบข้น ดื่มน้ำคลอโรฟิล

          ช่วงค่ำ ทำวัตรเย็น ทำดีท็อกซ์ พักผ่อน 3 ทุ่ม
วันที่ 3 วันอาทิตย์ ช่วงเช้า ทำดีท็อกซ์ กินยาน้ำ ดื่มน้ำกระเจี๊ยบผสมเกลือหิมาลัย อาบแดด 20 นาที หยอดหู หยอดตา หยอดจมูก ทำกัวซา
          รับประทานน้ำซุบใส นวดตัว ดูสื่อ กินยาน้ำ อบตัว 30 นาที เวลา 1200 ดีท็อกซ์ หยุดดื่มน้ำทุกอย่าง

          ช่วงบ่าย ดื่มน้ำสับปะรดหรือน้ำส้ม พอกหน้า แช่มือ แช่เท้า  ทำดีท็อกซ์ ดื่มน้ำดีเกลือ แชร์ประสบการณ์ ขอขมาพระสงฆ์ ขอบคุณพระ                 อาจารย์
          ช่วงค่ำ ทำวัตรเย็น (ถ้ายังไม่สะอาดทำดีท็อกซ์ต่อ)
          2000 น. ดื่มน้ำมันมะกอก เดินจงกรมและนอนรวมกันบนศาลา ท่านอนหงายหรือตะแคงขวาจนถึงเที่ยงคืน จึงเปลี่ยนอิริยาบทได้
วันที่ 4 วันจันทร์ ดื่มน้ำดีเกลือ ดื่มน้ำขิง 3 สหายไล่ลม น้ำกระเจี๊ยบผสมเกลือหิมาลัยหลัง 20 นาที น้ำมะพร้าว ดื่มน้ำคลอโรฟิล รับประทาน
          ข้าวต้ม มะละกอ นวดตัว (ถ้ามีเวลา) เก็บทำความสะอาดสถานที่

          1000 น. ทำดีท็อกซ์ รายงานผล แล้วกลับบ้านได้


หมายเหตุ การนวดตัว ขึ้นอยู่กับความประสงค์ โดยนวดตามอาการของผู้ป่วย

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
*แพทย์ทางเลือกวิถีธรรม
*เทคนิคการดูแลสุขภาพแนวเศรษฐกิจพอเพียงตามหลักการแพทย์วิถีพุทธ

ข้อพิจารณาก่อนล้างพิษตับ
ในบทความนี้ได้รวบรวมประสบการณ์ความเสี่ยงที่อาจนำไปสู่ความไม่ปลอดภัยต่อสุขภาพของผู้ล้างพิษตับ ให้ตระหนักเอาไว้ดังต่อไปนี้
        1. ผู้ที่ไม่มีกำลัง อ่อนแรงมาก ป่วยหนักจนขาดพลังชีวิต ไม่สามารถล้างพิษตับได้ หากฝืนดำเนินการล้างพิษตับไป จะเป็นอันตรายได้ จำเป็นต้องฟื้นฟูสภาพร่างกายให้มีความพร้อมก่อน 
        2. ผู้ที่มีโรคแผลกระเพาะอาหาร จำเป็นต้องรักษาโรคแผลกระเพาะอาหารให้เสร็จสิ้นเสียก่อนในการล้างพิษตับ  
        3. การใช้ดีเกลือไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจและโรคไต
        4. การใช้เอนไซม์ล้างลำไส้ หรือยาถ่าย ไม่สามารถใช้เกินขนาดได้ เช่น เอนไซม์ผงล้างลำไส้จากไต้หวันให้ดื่มสูงสุดวันละไม่เกิน 4 ซอง มีศูนย์ล้างพิษตับบางแห่งให้ผู้เข้าหลักสูตรดื่มถึง 9 ซองภายในวันเดียวโดยอ้างว่าเพื่อไม่ต้องสวนล้างลำไส้ ทำให้สูญเสียเกลือแร่เป็นจำนวนมาก และมีความเสี่ยงที่จะช็อคได้
        5. การใช้ลิดท็อกซ์ นั้น จากต้องดื่มน้ำในปริมาณที่มาก เพราะในลิดท็อกซ์นั้นมีผงซิลเลียมอยู่ 50% ซึ่งองค์การอาหารและยาในสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดห้ามดื่มเกินวันละ 50 กรัม 
            นอกจากนี้ยังได้มีคำแนะนำด้วยว่าการรับประทานไฟเบอร์กลุ่มนี้ควรจะไต่ระดับจากการดื่มทีละน้อย เพื่อให้จุลินทรีย์ในลำไส้ปรับสมดุล หากดื่มครั้งแรกๆในปริมาณที่มากในทันทีอาจทำให้เกิดภาวะขาดจุนลินทรีย์ซึ่งจะส่งผลต่อระบบการย่อยอาหารและระบบขับถ่ายที่ไม่สามารถปรับตัวและผิดปกติได้  
            การดื่มผลิตภัณฑ์ที่มีซิลเลียมนั้น ต้องผสมน้ำให้มากเพื่อให้อ่อนนุ่มในขณะพองตัว และหากดื่มน้ำตามน้อยอาจทำให้เกิดการอุดตันหรือกลายเป็นอุปสรรคในทางเดินอาหาร หรือทำให้หายใจไม่ออกได้ เพราะในศูนย์ล้างพิษตับบางแห่งแนะนำให้ผู้ล้างพิษตับดื่มลิดท็อกซ์แล้วห้ามดื่มน้ำตามในครึ่งชั่วโมงแรก 
         6. การอดอาหารต่อเนื่องอัตราการเผาผลาญจะต่ำลงทุกวัน ดังนั้น ในหลายกรณีเมื่ออัตราการเผาผลาญต่ำลงอาจทำให้ลำไส้เคลื่อนตัวช้าลงด้วย โดยเฉพาะเมื่ออดอาหารกากหลายๆวัน ดังนั้นจึงต้องสังเกตด้วยว่าหากมีการใช้ลิดท็อกซ์ต้องให้มั่นใจว่าลิดท็อกซ์ออกมาอย่างต่อเนื่อง ถ้าลิดท็อกซ์ไม่ออกมาหากฝืนดื่มน้ำมันมะกอกก็อาจทำให้สิ่งที่ออกมาจากตับไม่ถูกขับออกแต่ถูกลำไส้ดูดสิ่งที่ออกมาจากตับได้ หรือเมื่อลิดท็อกซ์ไม่ออกมาแล้วยังฝืนดื่มลิดท็อกซ์ต่อไป (ซึ่งมีศูนย์ล้างพิษตับบางแห่งทำอย่างนั้น) ก็อาจมีการตกค้างในลำไส้ได้เช่นกัน 
        7. ผู้ที่ต้องมีความระมัดระวังในการล้างพิษตับให้มากคือผู้ที่มีภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำซึ่งรับรู้จากการตรวจเลือดได้ และภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำแฝง ซึ่งไม่สามารถรับรู้จากการตรวจเลือดได้ต้องสังเกตอุณหภูมิที่ต่ำกว่า 36.3 องศาเซลเซียส และอาการร่วม คนกลุ่มนี้มีภาวะตัวเย็น (บางครั้งชาปลายมือปลายเท้า) มือเท้าเย็นง่าย ท้องผูก หัวใจเต้นช้าหรือเร็วผิดปกติ ฯลฯ เพราะจะมีอัตราการเผาผลาญต่ำกว่าปกติ คนเหล่านี้จะมีลำไส้ที่เคลื่อนตัวช้ากว่าคนปกติจนถึงขั้นท้องผูกขับถ่ายยากอยู่แล้ว จึงเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวังช่วงอดอาหารไม่ให้อัตราการเผาผลาญต่ำลงไปอีก ดังนั้นให้อดอาหารสั้นไม่เกิน 1 วัน และจำกัดน้ำมันมะกอกให้น้อยกว่าคนทั่วไปไม่เกิน 100 ซีซี ในการล้างพิษตับเพียงครั้งเดียว
        8. ผู้ที่มีโรคสะเก็ดเงิน หรือผื่นคันอื่นที่ ใช้ครีมทา หรือ รับประทานยา ที่มีส่วนผสมของสเตรียรอยด์มาอย่างต่อเนื่อง อาจจำเป็นต้องใช้ต่อในระหว่างการอดอาหาร และหากต้องการลดยาสเตียรอยด์จำเป็นต้องลดลงอย่างเป็นขั้นบันใด และในการล้างพิษตับนั้น ให้อดอาหารสั้นไม่เกิน 1 วัน และจำกัดน้ำมันมะกอกให้น้อยกว่าคนทั่วไปไม่เกิน 100 ซีซี ในการล้างพิษตับเพียงครั้งเดียว
         9. การใช้สมุนไพรที่มีฤทธิ์ร้อนเพื่อเพิ่มพลังงานในการขับของเสียออกนั้นมีความจำเป็นในหลักสูตรนี้ เช่น ยาชำระเมือกมัน จะช่วยทำให้การขับของเสียออกนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่อดอาหารและร่างกายขาดพลังงานในการขับเคลื่อน
        10. การสวนทวารล้างลำไส้นั้นมีความจำเป็นสำหรับการล้างพิษตับในแง่ความปลอดภัย และการลดความเสี่ยงจากการดูดของเสียของลำไส้ ซึ่งจะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงมาก และจำเป็นต้องทำต่อเนื่องหลังล้างพิษตับ 7 วัน   
        11. ศูนย์ล้างพิษตับบางแห่งใช้การสวนล้างลำไส้โดยการแนะนำว่าให้นำสายสวนล้างเข้าไปในลำไส้มากเกินความจำเป็นจนอาจเกิดความเสี่ยงได้ เช่น 1 ฟุตบ้าง 1 เมตรบ้าง บ้างก็อัดน้ำเข้าไปเป็นจำนวนมากถึง 1.5 ลิตรในคราวเดียวจนเกินความสามารถที่ร่างกายจะรับได้ ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการเสี่ยงและยังไม่ปลอดภัย    
        12. ความสะอาดเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ศูนย์ล้างพิษตับบางแห่งใช้วิธีนำสายสวนทวารล้างลำไส้ที่ใช้แล้วมาล้างรวมๆกันแล้วแจกคืนให้กับผู้ใช้ ซึ่งเป็นวิธีการที่มีความเสี่ยง อีกทั้งศูนย์ล้างพิษตับบางแห่งใช้โลหะเป็นกระบอกสวนล้างที่มีความไม่สะอาดมีคราบตระกรันหรือสนิม จำเป็นต้องตรวจสอบอยู่เสมอด้วย
        13. มักจะมีการประชาสัมพันธ์อ้างอิงการดื่มน้ำมันมะกอก ของ อ.แก่นฟ้า แสนเมือง ที่ให้คุณแม่ของ อ.แก่นฟ้า ดื่มน้ำมันมะกอกได้ถึง 4 แก้วในการล้างพิษตับ 1 ครั้ง แต่ในความเป็นจริงนั้น เป็นการทยอยดื่มน้อยๆครั้งละ 50 ซีซี เท่านั้น (ตามพละกำลังของผู้สูงวัย) ไม่ใช่การดื่มครั้งละ 100 -150 ซีซี อย่างที่ดำเนินการกันอยู่ในบางศูนย์ที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน
         สุดท้ายแล้วการดื่มน้ำมันมะกอกกี่แก้วจึงจะดีที่สุดนั้นไม่มีใครให้คำตอบได้ เพราะร่างกายของคนแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ตอบได้ว่าถ้าดื่มเพียง 1 แก้วต่อการล้างพิษตับ 1 ครั้ง มีความปลอดภัยกว่าดื่มหลายๆแก้วในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ผมและ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง ต่างเห็นด้วยในการที่โรงเรียนผู้นำจะเป็นมาตรฐานของความปลอดภัยให้ดื่มได้เพียงไม่เกิน 1 แก้วเท่านั้น
         หวังว่าการแจ้งความเสี่ยงและข้อควรระวังเหล่านี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของการทำให้ขบวนการล้างพิษตับสามารถเดินหน้าต่อไปอย่างมีสติ และพัฒนา ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้อย่างรอบคอบต่อไป 

Advertising Zone    Close

Online: 1 Visits: 25,980 Today: 7 PageView/Month: 84

ด้วยความปราถนาดีจาก "สยามทูเว็บดอทคอม" และเพื่อป้องกันการเปิดเว็บไซต์เพื่อหลอกลวงขายของ โปรดตรวจสอบร้านค้าให้แน่ใจก่อนตัดสินใจซื้อของทุกครั้งนะคะ    อ่านเพิ่มเติม ...